1. รูปแบบ – ควรเลือกก๊อกน้ำที่มีรูปแบบ และฟังก์ชั่นครบตามต้องการ ดีไซน์สวยงาม มีระบบการทำงานแบบเปิด-ปิด ที่สะดวก ใช้งานง่าย สอดคล้องกับสไตล์การตกแต่ง
2. พื้นผิว – เลือกก๊อกน้ำที่สามารถทำความสะอาดได้ง่ายพื้นผิวคงทน ไม่หลุดลอก หรือเกิดสนิมเขียวจากน้ำยาล้างห้องน้ำ
3. ระบบวาล์ว – ควรเลือกใช้แบบระบบเซรามิกวาล์ว เพราะมีความคงทน อายุการใช้งานยาวนาน ลดปัญหาการรั่วซึม ซึ่งปัจจุบัน มีทั้งแบบ ระบบโยกเปิด-ปิด และระบบบิดหมุน 90 องศา
– หากต้องการใช้ก๊อกน้ำรูปแบบน้ำร้อนและน้ำเย็น สามารถเลือกก๊อกน้ำผสม ซึ่งมีทั้งแบบก๊อกวาล์วเดี่ยวผสม (วาล์ว 1 ตัวยกขึ้น-ลง เพื่อเปิด-ปิด โยกซ้าย-ขวาเพื่อปรับระดับการผสมน้ำ) หรือก๊อกวาล์วคู่ผสม (มีวาล์วน้ำร้อน-น้ำเย็นแยกข้างซ้ายขวา และเปิด-ปิดแบบหมุน 90 องศา)
4. ขนาดของก๊อก – ควรเลือกขนาดก๊อกที่มีความเหมาะสมกับอ่างล้างหน้าไม่เล็ก หรือใหญ่เกินไป และ ปลายก๊อกน้ำ หรือคอก๊อกน้ำ ( หรือทิศทางองศาเมื่อเปิดน้ำ ) ควรยื่นเข้าไปในอ่างล้างหน้าอย่างน้อย 5 เซนติเมตร เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบาย ลดการกระเด็นของน้ำ
5. คุณสมบัติพิเศษอื่นๆ เพื่อเติมเต็ม ความสะดวกสบายในการใช้งาน เช่น ก๊อกน้ำมีเซ็นเซอร์เปิด-ปิดแบบอัตโนมัติ หรือก๊อกน้ำที่สามารถกดเปิด-ปิด อัตโนมัติได้จากมือ หรือเท้า
6. การรับประกัน – ควรเลือกก๊อกน้ำที่มีการรับประกัน หรือ มีอะไหล่สามารถซ่อมแซมแก้ไขได้เมื่อพบปัญหาในแต่ละส่วน เพื่อลดปัญหาการต้องซื้อใหม่ หรือเปลี่ยนใหม่ทั้งตัว